ผ่านช่วงสงกรานต์มาไม่นาน แม้ในช่วงนี้จะไม่สามารถจัดงานสงกรานต์ได้อย่างทุกๆ ปี เนื่องจากวิกฤตโรคระบาด ทำให้ปีนี้หลายๆ คนต้องอยู่บ้าน หาอะไรทำไปในช่วงนี้แทน เราเลยขอพาทุกคนมาระลึกความหลังถึง 3 กีฬาพื้นบ้านของไทยที่กำลังหายไป แต่เชื่อว่าทุก ๆ คนต้องรู้จักกันแน่ และ รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เกิดในยุคก่อนปีค.ศ. 2000 ซึ่งโดยปกติเราจะมีโอกาสได้เล่นกีฬาพื้นบ้านแบบนี้ได้ตามงานกีฬาสีของโรงเรียน หรือ ของหมู่บ้าน หรือ ตามกิจกรรมรวมของหมู่บ้านในวันสำคัญต่าง ๆ อย่างสงกรานต์เป็นต้น จะมีการละเล่นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
1.เดินกะลา
อย่างแรก คือ กีฬาพื้นบ้านยอดฮิต ที่ใช้อุปกรณ์ที่สร้างจากกะลามะพร้าว เนื่องจากในสังคม และ วัฒนธรรมไทย การกินมะพร้าวนั้นถูกส่งต่อกันมาอย่างยาวนาน สังเกตได้จากสูตรอาหารต่าง ๆ ที่มักมีกะทิเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะอาหารในภาค กลาง และ ใต้ ที่มักนิยมใส่กะทิมากกว่าภาคอื่น ๆ เนื่องจากมีการปลูกมะพร้าวเป็นจำนวนมากในพื้นที่นั้น ๆ ทำให้เมื่อมีกะลามะพร้าวเหลือ ชาวบ้านจึงนำมาเจาะรูร้อยเชือก เพื่อทำเป็นรองเท้ากะลา ให้เด็ก ๆ เดินแข่งกันกับเพื่อน ๆ โดยการเล่นก็เล่นได้ไม่ยาก เพียงขึ้นไปยืนบนกะลา จับเชือกให้มั่น และ วิ่งแข่งให้ชนะอีกฝ่ายนั่นเองค่ะ
2.มอญซ่อนผ้า
เกมถัดมาคือ เกมอีมอญซ่อนผ้า เป็นเกมที่มักเล่นกันในครอบครัวขนาดใหญ่ เล่นโดยการมานั่งล้อมลงกันเป็นวงกลม มีคนเป็นมอญซ่อนผ้า 1 คน เล่นโดยการให้คนในวงนั่งหลับตาและ ร้องเพลงมอญซ่อนผ้าไปเรื่อย ๆ มอญที่ทำหน้าที่ซ่อนผ้าต้องเดินรอบวงไปเรื่อย ๆ และ นำผ้าไปวางไว้หลังใครสักคนในวง เมื่อคนที่โดนวางผ้ารู้ตัวให้รีบนำผ้าวิ่งไล่มอญ หากไล่ไม่ทัน มอญนั่งลงที่นั่งของตนได้กห่อน ให้เป็นมอญแทนในตาถัดไป
3.วิ่งกระสอบ
เกมสุดท้ายคือ เวิ่งกระสอบ เป้นการละเล่นที่นำเอากระสอบข้าวเก่าที่เหลือใช้ นำมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการเล่น โดยการให้ผู้เข้าแข่งสวมกระสอบเข้าขาทั้งสองข้าง แล้ววิ่งโดยอยู่ในกระสอบ ใครไปถึงเส้นชัยก่อนเป็นฝ่ายชนะ เป็นการละเล่นที่เน้นความไว และ การทรงตัวเป็นหลัก ใครที่ทรงตัวเก่งๆ สิ่งเก่ง ๆ ต้องเกมนี้เลยค่ะ
และนี่ก็คือกีฬาพื้นบ้านที่กำลังเลือนหายไป จะพบเห็นได้ก็ตามงานกีฬาสีต่างๆ เลยอยากนำมาแบ่งปันให้หลายๆ คนอ่านและ แชร์ไปให้ลูกหลานได้รู้จัก และ รับรู้ ว่าไทยเองก็มีกีฬาพื้นบ้านสนุกๆ ไม่แพ้กีฬาสากลอื่นๆ เช่นกัน